ในปัจจุบันที่ปัญหาฝุ่น PM2.5 และมลพิษทางอากาศรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ นั้น ลำพังเพียงแค่เครื่องฟอกอากาศอย่างเดียว ไม่เพียงพอที่จะทำให้อากาศภายในบ้านหรือในอาคารสะอาดได้อย่างหมดห่วง เพราะในพื้นที่ที่เป็นระบบปิดติดแอร์ไม่ได้เปิดประตูหน้าต่างระบายอากาศ จะมีมลพิษสะสมอยู่มากกว่าภายนอกถึง 5 เท่า ทำให้ระบบหมุนเวียนอากาศมีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อการปรับคุณภาพอากาศภายในบ้านและอาคารให้สะอาดได้อย่างแท้จริง
ระบบหมุนเวียนอากาศ คือ ระบบปรับคุณภาพอากาศที่มากกว่าฟอกอากาศ โดยจะมีการหมุนเวียนเอาอากาศเสียภายในระบายออกไปภายนอกห้องด้วย ซึ่งไม่จำเป็นต้องเปิดประตูหน้าต่างเลย และในขณะเดียวกันก็จะดูดเอาอากาศภายนอกที่มีออกซิเจนใหม่เข้ามาเติมภายใน โดยก่อนเติมอากาศใหม่เข้ามาก็จะมีการฟอกให้สะอาดก่อน ทั้งนี้ ระบบหมุนเวียนอากาศที่ได้รับความนิยมนั้น มีอยู่ด้วยกัน 2 ระบบ ได้แก่ HRV และ ERV ซึ่งแต่ละระบบก็มีความพิเศษที่โดดเด่นแตกต่างกันไป
ระบบหมุนเวียนอากาศ HRV คืออะไร
ระบบหมุนเวียนอากาศ HRV หรือ Heat Recovery Ventilation คือ ระบบที่ช่วยระบายอากาศเสียภายในพื้นที่ออกไปยังภายนอก พร้อมกับมีการดูดอากาศใหม่เข้ามาเติมภายใน แต่จะมีแกนแลกเปลี่ยนความร้อนที่ช่วยดึงเอาความร้อนจากอากาศเดิมที่กรองสะอาดแล้วกลับมาใช้ใหม่ จึงเหมาะสำหรับสภาพอากาศที่มีความหนาวเย็นอย่างเช่นในประเทศเขตหนาวทั้งหลายที่จะต้องมีการติด Heater ทำให้อุณหภูมิในห้องในอาคารอบอุ่นอยู่ตลอดเวลา
การติดตั้งระบบหมุนเวียนอากาศ HRV จึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่ไม่เพียงแค่จะทำให้อากาศภายในพื้นที่สะอาดได้แล้ว แต่ยังช่วยเพิ่มความอบอุ่นในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพแบบประหยัดพลังงานจากเครื่องทำความร้อนได้มากขึ้นอีกด้วย เพราะมีการดึงความร้อนในอากาศเดิมรีไซเคิลกลับมาใช้งานใหม่นั่นเอง
ระบบหมุนเวียนอากาศ ERV คืออะไร
ระบบหมุนเวียนอากาศ ERV หรือ Enthalpy Recovery Ventilation คือระบบที่มีความคล้ายคลึงกันกับระบบ HRV คือช่วยระบายอากาศเสียภายในออกไปยังภายนอก และเติมออกซิเจนใหม่เข้ามายังภายในโดยมีการกรองอากาศที่นำเข้าใหม่ให้สะอาดก่อน แต่มีความแตกต่างกันตรงที่ระบบ ERV จะมีแกนแลกเปลี่ยนความร้อนคนละชนิดกันกับระบบ HRV
โดยแกนแลกเปลี่ยนความร้อนของระบบหมุนเวียนอากาศ ERV จะช่วยปรับอุณหภูมิและความชื้นของอากาศที่เข้าออกให้เหมาะสมแล้วดึงกลับเข้ามาใช้ จึงทำให้อากาศภายในพื้นที่มีอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสม ซึ่งส่งผลทำให้ช่วยประหยัดค่าไฟจากเครื่องปรับอากาศได้มากขึ้นโดยตรง
ซึ่งด้วยความสามารถของแกนแลกเปลี่ยนความร้อนระบบหมุนเวียนอากาศ ERV ตามที่กล่าวมานี้เอง จึงทำให้ทำงานตอบโจทย์ได้กับทุกสภาพอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับภูมิประเทศที่มีอากาศร้อนชื้นแบบในประเทศไทย ที่จะช่วยความคุมความชื้นและอุณหภูมิในพื้นได้อย่างเหมาะสม และลดภาระการทำงานของเครื่องปรับอากาศลงได้มาก
แกนแลกเปลี่ยนความร้อน Zehnder ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าและไม่เหมือนใคร
เราได้ทราบกันไปแล้วว่าเครื่องหมุนเวียนอากาศระบบ HRV กับ ERV นั้น แตกต่างกันในหลักของการทำงาน โดยระบบ HRV จะช่วยในการควบคุมอุณหภูมิเป็นหลัก ในขณะที่ระบบ ERV จะช่วยควบคุมทั้งอุณหภูมิและความชื้น แต่ทั้งนี้ ในระบบหมุนเวียนอากาศ ERV ด้วยกันเอง ก็ยังมีความแตกต่างกันในรายละเอียดเรื่องของวัสดุแกนแลกเปลี่ยนความร้อนด้วย ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพของการทำงาน
โดยทั่วไปแล้วแกนแลกเปลี่ยนความร้อนในระบบหมุนเวียนอากาศ ERV จะทำมาจากวัสดุที่เป็นกระดาษ ซึ่งแม้จะมีความสามารถในการควบคุมความชื้นและอุณหภูมิได้ แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการสะสมของสปอร์เชื้อราและแบคทีเรียได้ด้วย ซึ่งเมื่อใช้ไปนาน ๆ เข้าก็จะกลายเป็นทำให้อากาศภายในห้องไม่สะอาดอย่างที่ควรจะเป็น
นั่นเองที่ทำให้ระบบหมุนเวียนอากาศ ERV Zehnder มีความแตกต่าง เพราะมี Comfomembrane หรือ แกนแลกเปลี่ยนความร้อนที่ไม่เหมือนใคร เนื่องจากเป็นสิทธิบัตรของ Zehnder โดยเฉพาะ ซึ่งใช้โพลีเมอร์นำเข้าจากแคนาดาในการผลิต สามารถล้างทำความสะอาดได้ และมีอายุการใช้งานยาวนานถึง 30 ปี จึงช่วยป้องกันการเกิดสปอร์เชื้อราและแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี และทำให้สามารถแลกเปลี่ยนอากาศควบคุมอุณหภูมิและความชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุป
หากวันนี้เราเป็นหนึ่งในคนที่ต้องการยกระดับคุณภาพอากาศภายในที่อยู่อาศัย หรืออาคารออฟฟิศให้สะอาดปลอดภัยและดีต่อสุขภาพได้มากขึ้นล่ะก็ ระบบหมุนเวียนอากาศ คือทางเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุด เพราะทำได้มากกว่าฟอกอากาศ โดยช่วยระบายอากาศเสียออกภายนอกและเติมอากาศใหม่เข้ามาภายในพื้นที่ รวมถึงยังช่วยประหยัดพลังงานไปด้วยพร้อมกัน
ซึ่งสำหรับประเทศไทยที่มีลักษณะอากาศแบบร้อนชื้น ระบบหมุนเวียนอากาศ ERV ก็ตอบโจทย์มากกว่า ระบบ HRV เพราะนอกจากจะช่วยหมุนเวียนอากาศให้สะอาดได้แล้ว ยังช่วยปรับอุณภูมิและความชื้นให้เหมาะสม พร้อมกับช่วยประหยัดพลังงานจากเครื่องปรับอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย